4. หยุด!! ใช้ทางลัด

อยากหายเร็ว.. หายได้ แต่!! ระยะยาวไม่ดีอย่างแน่นอนค่ะ เพราะการที่เราใช้เครื่องมือลอกผิวหน้ารักษาฝ้า จะยิ่งทำให้หน้าของเราบาง บาง และบางลง พอบางลง เวลาที่หน้าต้องออกไปเจอแสงแดงหรือมลภาวะต่างๆ ก็จะทำให้เกิดฝ้าได้ชัดขึ้น หนักขึ้น และหายช้ากว่าเดิม เพราะฉะนั้นแล้ว ค่อยๆ ดูแลค่อยๆ รักษาไปดีกว่าค่ะ แต่! ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ต้องดูเป็นกรณีไปเน๊าะ

เห็นไหมคะสาวๆ ขา การดูแลรักษาผิวหน้าให้ห่างไกลฝ้าไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เลือกครีมบำรุงหน้ารักษาผ้าที่ปลอดภัย และได้การรับรองประสิทธิภาพจากผู้เชียวชาญด้านผิวหนังจริงๆ เพียงแค่เราเข้าใจ ปฏิบัติและทำให้ถูกวิธี เพียงเท่านี้เราก็จะมีหน้าที่ขาวใส ไม่ต้องโบกรองพื้นหนาๆ อีกแล้วล่ะค่ะ

และเมื่อใช้เป็นประจำทุกเช้า - ก่อนนอน จะสังเกตได้เลยฝ้าจางลง เห็นชัดภายใน 3 สัปดาห์ค่ะ สามารถหาซื้อ "Concept anti melasma"  ได้ที่ .. ร้านขายยา และ ร้าน Special Store เช่น Watson หรือ ร้านขายสินค้าเวชสำอาง อาหารเสริมทั่วไป

ซึ่งเจ้าตัวนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นสูตรธรรมชาติ ปลอดภัยได้การรับรองประสิทธิภาพจากผู้เชียวชาญด้านผิวหนัง ไม่มีส่วนผสมของ ไฮโดรควิโนน ที่ทำให้ผิวด่างขาว หรือเรทิโนอิดกรดวิตามินเอและสารปรอท ซึ่งเป็นอันตรายและทำให้ผิวบาง ทำให้เราสามารถมั่นใจได้เลยว่า เจ้าครีม Concept ตัวนี้จะทำให้เราโชว์หน้าสดได้อย่างมั่นใจค่ะ "Concept anti melasma" ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มเวชสำอางค่ะ ซึ่งส่วนผสมหลักของเจ้าตัวนี้ จะประกอบไปด้วย ...

- Alpha Arbutin : ช่วยให้ฝ้า และจุดด่างดำจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ

- Vitamin B3 : ช่วยให้หน้าขาว กระจ่างใส

- ODA white (Octadecenedioic acid) 

- สารสกัดจากชะเอม 

- สารสกัดเมล็ดถั่ว

- สารสกัดว่านหางจระเข้ : ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ระคาย

3. รักษาที่ต้นเหตุ ฝ้า! ต้องปราบให้ถูกจุด

เป็นฝ้าก็ต้องรักษาให้ตรงจุดค่ะ วันนี้เราเลยมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าเพื่อรักษาฝ้าโดยตรง!! ซึ่งนั้นก็คือ "Concept anti melasma" หลอดขาวแดงตัวนี้เลยย

2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารสเตียรอยด์

อยากหน้าขาว ใส ไร้ฝ้า วิธี basic ง่ายๆ ที่ยังไงก็ต้องทำเป็นประจำทุกวันก็คือการดูแลทาครีมบำรุงค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว ควรเลือกสกินแคร์ที่จะมาตอบโจทย์ดูแลผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการล้าง บำรุง หลีกเลี่ยงครีมที่มีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่ เพราะถ้าครีมตัวไหนที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์อยู่ เมื่อใช้ไปในระยะยาวจะทำให้ใบหน้าของเราเกิดอาการแพ้ เกิดสิวอักเสบ ผดเม็ดเล็กๆ ที่จะมาทำร้ายผิวหน้าให้ผิวของเราบางและกลายเป็นผิวแผ้ง่าย ที่สำคัญไม่ควรสครับผิวหน้าบ่อยๆ อีกด้วยนะคะ

1. หลีกเลี่ยงรังสี UVA UVB

แสงแดดตัวการอันตรายที่ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องยอมค่ะ เพราะด้วยรังสี UVA UVB ที่เราพบเจอได้จากแสงแดด และยังรวมไปถึงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ต้นเหตุที่จะทำให้ผิวของเราหมองคล้ำ นำมาสู่ซึ่งความร่วงโรยของผิว และเมื่อผิวของเราได้รับการสะสมไปนานๆ ก็จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว ..

✦ ควรทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้า และผิวตัวเป็นประจำทุกวัน

✦ หาหมวกใส่ก่อนออกไปเจอแสงแดดร้อนๆ ช่วงกลางวัน

✦ พกร่มเคลือบสารป้องกัน UVA UVB ติดโต๊ะทำงานหรือไว้บนรถ

เพียงเท่านี้ก็พอจะช่วยลดการปะทะกับแสงแดดตรงๆ แล้วล่ะค่ะ

แล้วมีกี่ชนิดหรอ ?

ฝ้า แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ฝ้าแบบตื้น และฝ้าแบบลึก ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัด เกิดได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้เร็ว ฝ้าแบบลึก จะอยู่ในชั้นที่ลึกกว่าชนิดแรก โดยจะเกิดฝ้าในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า และเกิดความผิดปกติในระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีม่วงๆ อมน้ำเงิน  รู้จักชนิดของฝ้ากันไปแล้วมาดูวิธีการปราบฝ้า ทวงใบหน้าขาวใสคืนกันเลย ...

ฝ้า เกิดจากอะไร ?

ฝ้า จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอมดำ และมีขนาดที่แตกต่างกันค่ะ ซึ่งบริเวณที่มักเกิดฝ้ามากที่สุดก็คือ ช่วงโหนกแก้มและสันจมูก โดยทั่วไปฝ้าจะเกิดกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป จนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งฝ้าจะเกิดได้จาก ฮอร์โมน ยา พันธุกรรม เครื่องสำอางและอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้าก็คืออ แสงแดดนั่นเองงง

ฝ้า!!! อีกหนึ่งปัญหาที่สาวๆ กังวลใจ มันเกิดจากอะไรแล้วรักษาแบบไหนถึงจะหายซะที วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัย และหาวิธีการรักษาที่ถูกวิธี จะมียังไงบ้างนั้นมาดูกันเลยยย

หน้าเป็นฝ้า ต้องมานั่งปกปิด โบกทั้งรองพื้น คอลซีลเลอร์เป็นอะไรที่ เฮ้อออ เหนื่อยเหลือเกินค่ะ เพราะทั้งเหนื่อยหนักหน้า เหนื่อยล้างหน้า แถมทำความสะอาดหน้าแรงๆ ฝ้าก็ยิ่งขึ้นหนักกว่าเดิมอีก แล้วเราจะรับมือ ดูแลป้องกันยังไง วันนี้เราเลยจะมาเจาะลึกหาต้นตอการเกิดฝ้า และมาปราบไปด้วยกัน มาค่ะ! เริ่ม ....