ส่วนประกอบที่สำคัญ ที่ทำให้สิวหาย และไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก

Salicylic acid (SA) หรือ BHA (beta hydroxy acid) เป็นสารสกัดหลักที่พบในกลุ่มเครื่องสำอางดูแลปัญหาเรื่องสิว ผลิตมาจากเปลือกของ ต้นวิลโล่ Willow Tree  นิยมนำมาผสมกับเครื่องสำอาง เพราะสามารถผลัดเซล์ผิว แต่จะไม่เหมือนกับ AHA ที่โมเลกุลเล็กกว่าจึงสามารถช่วยเรื่องการลดริ้วรอย แต่ BHA จะเด่นตรงที่มันจะซึมลงไปในรูขุมขนเพื่อล้างเอาไขมันที่ติดตามรูขุมขนให้หลุดออก ทำให้ไม่อุดตันและเกิดสิว แถมในระยะยาวจะช่วยให้รูขุมขนเล็กลง

เป็นส่วนประกอบสำคัญที่พบ  อยู่ในส่วนผสมของ เครื่องสำอางหลายชนิด มีคุณสมบัติช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ฆ่าเชื้อโรค และช่วยละลายสิ่งอุดตันตามรูขุมขนจึงเป็นสารที่ใช้ในการช่วยรักษาสิว ทำให้ผิว เรียบเนียน

การออกฤทธิ์สำหรับการลอกผลัดเซลล์ผิวเกิดจากสารซาลิซิลิกออกฤทธิ์ลดความเป็นกรด-ด่างของผิว ทำให้เกิดการบวมน้ำของเคราตินในชั้นผิวหนังเร่งการผัดผิวของชั้นถัดไป นอกจากนั้น กรดซาลิซิลิกยังออกฤทธิ์ให้สารละลายมีสภาพเป็นกรดช่วยต่อต้าน และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

ความเข้มข้น Salicylic Acid ที่เหมาะสม

โดยปกติแล้วความเข้มข้นของ Salicylic Acid ที่นิยมผสมในเครื่องสำอางค์ต่างๆจะอยู่ที่ 1-2% ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่เหมาะสมกับสภาพผิวของมนุษย์ปกติอย่างเรา ทำไมต้องบอกว่าเหมาะกับมนุษย์ปกติ ก็เพราะว่าความจริงแล้วเราสามารถใช้ Salicylic Acid ได้มากว่า 1-2% คือ สามารถใช้ไดสูงถึง 10-20% ทีเดียว

Salicylic Acid หรือ BHA กับการรักษาสิว

หากพูดถึง Salicylic Acid ในมุมมองของการรักษาสิวนั้น Salicylic Acid หรือ BHA จะมีสรรพคุณในการรักษาสิวอุดตันและรอยแผลสิว หรือจุดด่างดำจากสิวได้ดี ก็อย่างที่บอกไว้ว่า Salicylic Acid นั้นมันละลายได้ดีในน้ำมัน มันจึงสามารถเข้าไปชอนไชขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขนของเราได้ดี นอกจากนี้ Salicylic Acid ยังมีฤทธิ์ที่ช่วยผลัดเซลผิวชั้นบนของเราให้หลุดลอกออกไปก่อนเวลาอันควร ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันการอุดตันของสิวแล้ว ยังมีผลทำให้รอยสิว จุดด่างดำจากสิวดูจางลงได้อีกด้ว (ถึงแม้จะช่วยได้ไม่มากก็ตาม) เรียกได้ว่าเป็นยารักษาสิวอุดตันชั้นดีอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว

หน้าที่หลัก

1. กระชับรูขุมขน
2. ช่วยผลัดเซลล์ผิว
3. ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิว
4. รักษาสิวอุดตัว สิวเสี้ยน
5. ลดรอยเหี่ยวย่น